ในขณะที่ธรรมชาติของสังคมยุคใหม่ที่เร่งรีบส่งผลต่อสุขภาพจิตและกายของเรา การฝึกสติจึงกลายมาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับความเครียดและปรับปรุงสุขภาพโดยรวม
แต่การมีสติหมายถึงอะไรกันแน่ และเราจะฝึกฝนการมีสติในชีวิตประจำวันได้อย่างไร?
แก่นแท้ของมันก็คือการกระทำง่ายๆ ของการใส่ใจกับช่วงเวลาปัจจุบันโดยไม่ตัดสิน
นั่นหมายถึงการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในกิจกรรมใดๆ ที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นการล้างจาน เดินไปทำงาน หรือแม้กระทั่งการนั่งและหายใจ
การที่เรามุ่งความสนใจไปที่ปัจจุบันอย่างเต็มที่ จะช่วยให้เราละทิ้งความคิดและความกังวลต่างๆ ที่อาจครอบงำเราได้ และหันมาสนใจสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ที่นี่และตอนนี้แทน
หนึ่งในวิธีฝึกสติที่ได้ผลที่สุดคือการทำสมาธิ ซึ่งอาจทำได้ง่ายๆ เพียงแค่หาที่นั่งเงียบๆ หลับตา และเพ่งสมาธิไปที่ลมหายใจ
คุณยังสามารถลองทำสมาธิแบบมีคำแนะนำได้ ซึ่งสามารถพบได้ทางออนไลน์หรือผ่านแอป เช่น Headspace หรือ Calm
ประโยชน์ของ Mindfulness
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการมีสติสามารถส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งทางกายและใจ ประโยชน์บางประการ ได้แก่:
- ลดความเครียดและความวิตกกังวล
- อารมณ์ดีขึ้น
- เพิ่มความสนใจและสมาธิ
- การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น
- ลดการอักเสบ
- การนอนหลับที่ดีขึ้น
วิธีการฝึก Mindfulness
มีวิธีฝึกฝนที่แตกต่างกันมากมาย แต่เทคนิคทั่วไปมีดังนี้:
-
การหายใจ: ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใส่ใจกับความรู้สึกของลมหายใจขณะที่คุณหายใจเข้าและหายใจออก
-
การสแกนร่างกาย: ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใส่ใจกับทุกส่วนของร่างกาย เริ่มตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นไปจนถึงศีรษะ
-
การเดินจงกรม: ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใส่ใจต่อความรู้สึกของเท้าของคุณเมื่อกระทบพื้นขณะเดิน
-
โยคะ: การฝึกปฏิบัตินี้ผสมผสานการเคลื่อนไหวทางกายเข้ากับสมาธิและความใส่ใจ
อยากรู้เรื่องโยคะเพิ่มเติม ลองอ่านบทความของเราที่โยคินีอธิบายว่าโยคะคืออะไร.
สิ่งสำคัญคือต้องค้นหาวิธีที่เหมาะกับคุณและทำให้การมีสติเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของคุณ
การนำ Mindfulness เข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน
Mindfulness สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของคุณได้หลายวิธี เช่น:
- ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในแต่ละวันเพื่อฝึกการหายใจอย่างมีสติหรือการสแกนร่างกาย
- การรวมกิจกรรมที่ต้องมีสติ เช่น โยคะหรือการเดินจงกรม เข้าไปในกิจวัตรประจำวันของคุณ
- การใส่ใจความคิดและความรู้สึกของคุณตลอดทั้งวัน และสังเกตโดยไม่ตัดสิน
แต่การมีสติไม่ได้เป็นเพียงแค่การลดความเครียดเท่านั้น แต่ยังส่งผลอย่างมากต่อสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของเราอีกด้วย งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการมีสติสามารถลดความดันโลหิต ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น และยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
ประโยชน์สำคัญประการหนึ่งของการมีสติคือช่วยให้เราเข้าใจอารมณ์และความคิดของตัวเองมากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่การตระหนักรู้และการยอมรับตนเองมากขึ้น และเมื่อเราเข้าใจตนเองมากขึ้น เราก็จะสามารถเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของคนรอบข้างได้ดีขึ้น นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เติมเต็มและมีความหมายมากขึ้น
ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวม ลองฝึกสติดูสิ คุณอาจประหลาดใจว่าการฝึกสติสามารถสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตคุณได้มากเพียงใด
บทสรุป
Mindfulness เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่ช่วยให้เรารับมือกับความเครียด และพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของเราได้ การใส่ใจกับปัจจุบันขณะและทุ่มเทอย่างเต็มที่กับกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่เรากำลังทำอยู่ จะช่วยให้เราสามารถละทิ้งความคิดและความกังวลที่ถาโถมเข้ามาครอบงำเราได้อย่างง่ายดาย
ต้องแน่ใจว่า ลองดูเว็บไซต์นี้เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมีสติ
ไม่ว่าจะผ่านการทำสมาธิหรือเทคนิคการลดความเครียดโดยใช้สติ การนำสติเข้ามาในชีวิตประจำวันสามารถนำไปสู่การตระหนักรู้ในตนเอง การยอมรับตนเอง และท้ายที่สุดคือความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น